หลายคนอาจจะเคยรู้สึกง่วงนอนในช่วงเวลากลางวัน และหลายคนก็พยายามต่อสู้กับความง่วง พยายามปลุกตัวเองให้ตื่นด้วยวิธีต่างๆ เช่น การดื่มกาแฟ การดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ล้างหน้าล้างตา เป็นต้น แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วการงีบหลับนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นได้ และหากจะให้ได้ผลเต็มที่การงีบหลับจะต้องอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสมนั้นเอง
วงจรการนอนหลับแบ่งออกเป็น 4 ระยะ
1. ระยะที่หนึ่งเป็นระยะที่เปลี่ยนจากการตื่นไปสู่การนอน ในระยะนี้หาถูกปลุกให้ตื่นจะทำให้รู้สึกว่ายังไม่ได้นอน
2. ระยะที่สองเป็นเหมือนระยะของการนอนหลับอย่างแท้จริง หรือเป็นช่วงหลับตื้นๆ ที่ยังไม่มีการฝัน จึงทำให้การหลับในระยะนี้สามารถถูกปลุกให้ตื่นได้โดยง่าย
3. ระยะที่สามเป็นช่วงที่หลับลึกลงไป และเป็นระยะที่เริ่มจะปลุกให้ตื่นค่อนข้างยากขึ้น หากถูกปลุกจะทำให้รู้สึกงัวเงีย
4. ระยะที่สี่จะเป็นช่วงที่หลับลึกที่สุดและระยะนี้เป็นระยะที่ปลุกยากที่สุด ซึ่งในระยะนี้เองจะเป็นช่วงที่มีการฝันเกิดขึ้น
ควรงีบหลับกี่นาทีถึงจะดีที่สุด?
1.การงีบ 10-20 นาที จะทำให้ร่างกายตื่นตัวและเพิ่มพลังให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ดีในช่วงเวลานี้จะสามารถปลุกให้ตื่นได้ง่าย
2.การงีบ 30 นาที แต่ว่าในการงีบหลับนาน 30 นาที หากทำให้ตื่นขึ้นมามักจะมีอาการเหมือนการแฮงค์โอเวอร์ ซึ่งทำให้ร่างกายรู้สึกเฉือยๆ ไม่ประปรี้ประเปร่า
3.การงีบ 60 นาที ช่วงนี้การนอนจะมีผลต่อการส่งคลื่นสั้นๆต่อสมองอยู่ในระยะหลับลึก มีผลต่ความจำทำให้จดจำข้อมูลต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่การตื่นของช่วงเวลานี้จะรู้สึกงีวเงียและตื่นยากกว่าปกติ
4.การงีบ 90 นาทีหรือการครบวงจรการหลับ ช่วงนี้เป็นการหลับที่สมบูรณ์ สมองจะได้พักเต็มที่ ช่วยในเรื่องของความจำ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และยังทำให้ร่างายนั้นสดชื่นประปรี้ประเปร่าอีกด้วย